ScoopMovie
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
10 อันดับภาพยนตร์ที่ถูกสร้างจากเกม แนะนำว่าไม่ควรพลาด!
10. Doom (2005)
ณ สถานีวิจัยบนดาวอังคาร มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อการวิจัยทุกอย่างได้หยุดชะงักลง ระบบการสื่อสารล้มเหลว จึงเป็นหน้าที่ของ ซาร์จ (เดอะ ร็อก) รีฟเปอร์ (คาร์ล เออร์บาน) และกลุ่มทหารมือฉมังที่ต้องเข้าไปสืบหาสาเหตุ ก่อนที่พวกเขาจะพบว่าในสถานีวิจัยแห่งนี้ มีบางสิ่งที่สังหารมนุษย์อย่างเลือดเย็น พวกมันคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครรู้จัก พวกเขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดพวกมัน ก่อนที่สิ่งมีชีวิตประหลาดจะหลุดรอดออกไปทางประตูสู่โลก
เชื่อว่าคอเกมเดินยิงคงไม่มีใครรู้จัก “Doom” เกมเดินยิงสุดมันส์ในตำนาน ในเวอร์ชั่นหนังนี้มีพล็อตที่คล้ายกับเกมภาค 3 และเรียกได้ว่าถอดแบบออกมาจากเกมได้อย่างเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นโทนหนังที่ดูลึกลับ สัตว์ประหลาดสยองที่ออกมาไล่ฆ่ามนุษย์ แอ็คชั่นสุดมันส์ และหนังยังมี “ฉากมุมมองบุคคลที่ 1” ที่ให้อารมณ์ถือปืนเดินยิงเหมือนเกมอีกต่างหาก ถ้าคุณเป็นสาวก Doom หรือชื่นชอบเกมเดินยิง อย่าพลาด!
9. Need For Speed (2014)
โทบี้ มาร์แชล (อาร์รอน พอล) ช่างซ่อมรถยนต์ที่มีอีกบทบาทหนึ่งคือ “นักซิ่ง” แต่ด้วยภาระที่ต้องดูแลกิจการอู่ซ่อมรถของครอบครัว เขาจึงต้องจำใจร่วมงานกับ ไดโน่ บริวส์เตอร์ (โดมินิค คูเปอร์) อดีตนักแข่งนาสคาร์ผู้ร่ำรวยและเย่อหยิ่ง แต่มันกลับเป็นหายนะ เมื่อไดโน่ได้ใส่ร้ายโทบี้ สำหรับอาชญากรรมที่เขาไม่ได้ก่อ และทำให้เขาต้องติดคุก สองปีต่อมา โทบี้ถูกปล่อยตัวและเริ่มต้นการล้างแค้น เขารู้ว่าโอกาสเดียวที่จะโค่นไดโน่คือการเอาชนะเขาในการแข่งรถใต้ดินนาม “เดอ ลีออน” โทบี้จึงต้องเหยียบคันเร่งเต็มสปีด เพื่อหนีการตามล่าจากตำรวจ การถูกหมายหัว และเอาชนะไดโน่ให้ได้
Need For Speed คือเกมแข่งรถในตำนานอีกเกมที่ยังมีลมหายใจ และเป็นที่ชื่นชอบของเกมเมอร์ทั่วโลก ถึงเกมแต่ละภาคจะไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องเท่าไหร่ แต่เวอร์ชั่นหนังทำเนื้อเรื่องออกมาได้เข้มข้นพอๆกับฉากแข่งรถที่ระทึกจนลืมหายใจ ขาซิ่งตัวจริงทั้งนอกจอและในจอไม่ควรพลาด
8. Prince of Persia: The Sands of Time (2010)
มหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่น-ผจญภัยในดินแดนลี้ลับแห่งเปอร์เซีย เมื่อเจ้าชาย (เจค จิลเลนฮาล) ต้องมาร่วมมือกับเจ้าหญิงผู้ลึกลับ (เจมม่า อาร์เทอตัน) อย่างไม่เต็มใจ โดยพวกเขาต้องผจญภัยไปด้วยกันพร้อมทั้งต่อสู้กับอำนาจมืดอันชั่วร้ายทั้งหลาย เพื่อปกป้องกริชโบราณ ที่สามารถปลดปล่อยพลังของ "ทรายแห่งกาลเวลา" เครื่องมือของเทพเจ้าที่สามารถย้อนเวลากลับได้ตามต้องการและทำให้ผู้ที่ได้ครอบครองมีความเป็นอมตะและมีอำนาจสูงสุดที่จะสามารถครอบครองโลกนี้ได้ การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องและแย่งชิงพลังของ "ทรายแห่งกาลเวลา" จึงเกิดขึ้น
สาเหตุที่ทำให้หนังเรื่องนี้อลังการงานสร้างไม่แพ้เวอร์ชั่นเกม เพราะหนังได้โปรดิวเซอร์เงินหนาอย่าง “เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์” (โปรดิวเซอร์ Pirate of The Caribbean ทั้ง 3 ภาค) มาช่วยดูแลโปรเจค ทำให้หลายๆฉากในหนังเนรมิตออกมาได้อลังการ เหนือจินตนาการเหมือนในเกม ฉากการต่อสู้และปีนป่ายที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมก็ถ่ายทอดออกมาได้สนุก ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลการผจญภัยเหนือจินตนาการ คุณไม่ควรพลาด
7. HITMAN: AGENT 47 (2015)
นักฆ่าหัวบาร์โค้ดที่คอเกมรู้จักกันดี ในเวอร์ชั่นหนังเล่าเรื่องของ Agent 47 นักฆ่าอัจฉริยะซึ่งถูกสร้างขึ้นมาผ่านกระบวนการวิศวพันธุกรรมจนทำให้เขามีทั้งความแข็งแรง ความรวดเร็ว ความอดทน และสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด
เขาได้รับภารกิจให้ไปสังหารหญิงสาวคนหนึ่ง แต่เขากลับพบว่าเธอคือลูกสาวของนักวิจัยผู้ที่สร้างเขาขึ้นมา ทำให้เขาได้รู้ความลับอันร้ายกาจขององค์กร เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายในการตามล่า จากหญิงสาวแค่คนเดียว สู่องค์กรยักษ์ใหญ่ที่เต็มไปด้วยแผนร้าย
เขาได้รับภารกิจให้ไปสังหารหญิงสาวคนหนึ่ง แต่เขากลับพบว่าเธอคือลูกสาวของนักวิจัยผู้ที่สร้างเขาขึ้นมา ทำให้เขาได้รู้ความลับอันร้ายกาจขององค์กร เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายในการตามล่า จากหญิงสาวแค่คนเดียว สู่องค์กรยักษ์ใหญ่ที่เต็มไปด้วยแผนร้าย
เสน่ห์ของเกม Hitman คือการเลือกวิธีฆ่าเป้าหมายได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบู๊ล้างผลาญ หรือปลอมตัวเข้าไปฆ่าแบบเนียนๆ แต่เวอร์ชั่นหนังได้เปลี่ยนรสชาติไปเป็นบู๊ล้างผลาญเต็มรูปแบบ ทำให้คอเกมหลายๆคนเบะปาก แต่เราขอให้คุณลองเปิดใจดู เพราะฉากแอ็คชั่นต่างๆในหนังทำออกมาได้สนุก ตัวหนังก็เพลิดเพลินในระดับหนึ่ง คุณอาจจะได้อรรถรสอีกแบบที่เกมไม่สามารถให้คุณได้
6. MAX PAYNE (2008)
เมื่อครอบครัวและคู่หูถูกฆ่า เขาจึงกลายเป็นตำรวจเดนตายที่ไม่สนใจชีวิตตัวเอง แม็กซ์ เพย์น (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) ออกตามไล่ล่ากลุ่มอาชญากรที่บังอาจพรากสิ่งที่เขารักที่สุดในโลกไป เขาตามสืบสวนและไล่ฆ่าพวกมันด้วยความคับแค้นแน่นอก ก่อนที่เรื่องราวจะนำพาให้เขาพบกับโลกใต้ดินสุดสะพรึง และปีศาจร้ายในก้นบึ้งจิตใจของเขาเอง
คอเกมรุ่นเก๋าคงรู้จักเกมฟิล์มนัวร์สุดดาร์คเกมนี้เป็นอย่างดี เวอร์ชั่นหนังก็เรียกได้ก๊อปบรรยากาศในเกมมาแบบเต็มๆ ทั้งความมืดหม่น ความดาร์คของตัวละครที่จมอยู่กับความแค้นและความผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉากแอ็คชั่นก็ยังตื่นเต้นไม่แพ้เกม และจังหวะ “สโลโมชั่น” ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมก็ยังมีอยู่ เรียกได้ว่าโดนใจสาวกสุดๆ
5. SILENT HILL (2006)
หนังเล่าเรื่องของ คริสโตเฟอร์ (ชอน บีน) และโรส ดาซิลวา (ราดาห์ มิทเชลล์) คู่สามีภรรยา ทั้งคู่มีลูกสาวชื่อ ชารอน (โจเดล เฟอร์แลนด์) ชารอนมีอาการป่วยแปลกประหลาด เธอชอบเดินละเมอตอนกลางคืนและพูดถึงเมืองที่ชื่อ “Silent Hill” โรสเชื่อว่าถ้าพาชารอนไปเมืองนั้นจะช่วยให้เธอหายดีขึ้น เธอจึงได้พาลูกสาวไปยังเมือง Silent Hill แต่รถก็เกิดอุบัติเหตุ โรสได้รับแรงกระแทกจนสลบไป เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าลูกสาวของเธอได้หายไปแล้ว เธอพบว่าเธอได้มาอยู่ในเมือง Silent Hill เมืองมืดหม่นที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและขี้เถ้า ภารกิจค้นหาลูกสาวของเธอจึงได้เริ่มต้นขึ้น และนำพาเธอเข้าสู่เหตุการณ์ประหลาดแบบที่เธอไม่เคยนึกฝัน
จุดเด่นของเกม Silent Hill คือบรรยากาศของเมืองที่น่าขนลุก เนื้อเรื่องชั้นดี ปีศาจที่น่าสะพรึง ซึ่งเวอร์ชั่นหนังก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้ตัวเกม เนื้อเรื่องน่าติดตามจนนำไปสู่การคลายปมที่น่าทึ่ง บรรยากาศน่ากลัว ผีนางพยาบาลที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมก็ปรากฏตัวได้น่าสยองมากๆ หนังยังแฝงนัยยะที่เกี่ยวกับลัทธิแปลกๆไว้มากมาย ถ้าคุณยังหลงใหลโลกลึกลับของ Silent Hill เวอร์ชั่นเกม หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณหลงใหลเมืองจนไม่อยากออกมา
4. RESIDENT EVIL (2002)
ไวรัสร้ายได้หลุดออกมาจากห้องทดลองลับนามว่า “The Hive” ไวรัสชนิดนี้ทำให้คนตายกลายเป็นซอมบี้หิวกระหาย อีกทั้งมันยังปลดปล่อยสัตว์ทดลองที่อยู่ในแล็ปออกมาอีกด้วย เจ้าของแล็ปอย่างบริษัท Umbrella จึงได้ทำการส่งหน่วยทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ พวกเขาได้พบกับ อลิซ (มิลลา โจโววิช) หญิงสาวที่สูญเสียความทรงจำ อลิชได้เดินทางไปกับทหารในการยับยั้งเหล่าซอมบี้ ก่อนที่ไวรัสร้ายจะแพร่กระจายออกไปทั่วโลก ขณะนั้นเองความทรงจำของอลิซก็เริ่มกลับมา และเธอก็รู้ว่าแผนขององค์กร Umbrella คืออะไร
ถ้าคุณไม่รู้จัก Resident Evil คุณคงไม่ใช่คอเกมตัวจริง เกมยิงซอมบี้เกมนี้วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1996 และยังมีภาคต่อออกมาจนถึงปัจจุบัน มีฐานแฟนคลับทั่วโลก ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ก็มีการทำออกมาถึง 5 ภาค (ภาคที่ 6 กำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำ) ถึงแม้ตัวเอกที่ชื่ออลิซจะไม่มีในเวอร์ชั่นเกม แต่บรรยากาศความสยอง ซอมบี้กลายพันธุ์สุดโหดก็ยังอยู่ในหนังอย่างครบถ้วน แถมหนังแต่ละภาคก็ยังมีตัวละครจากเวอร์ชั่นเกมมาแจมเป็นระยะๆ เรียกได้ว่าเซอร์วิซแฟนเกมกันแบบเต็มๆ
3. TOMB RAIDER (2001)
คืนวันหนึ่งเมื่อดาวเคราะห์ 3 ดวง โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ลาร่า ครอฟท์ (แอนเจลิน่า โจลี) ค้นพบนาฬิกาไขลานที่นำมาจากซากโบราณที่พ่อของเธอเคยขุดพบ เขาเล่าให้เธอฟังถึงองค์กรลับที่พยายามค้นหานาฬิกาโบราณ เพื่อเปิดห้วงเวลาและอวกาศ และเอาไว้ใช้กำจัดศัตรู กุญแจนี้มีลักษณะเป็นรูป 3 เหลี่ยมลึกลับ ถ้าชิ้นส่วนของ 3 เหลี่ยมถูกประกอบกันเข้าอีกครั้ง เวลาจะหยุด บรรพบุรุษทั้งหลายจะกลับคืนชีพ ลาร่ามีเวลาเพียง 48 ชั่วโมง เพื่อตามหาชิ้นส่วนให้ครบ ก่อนที่มันจะตกไปอยู่ในมือขององค์กรลับชั่วร้าย และชะตากรรมของมนุษยชาติจะเปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์
ถ้าพูดถึงตัวเอกหญิงในเกมสุดเซ็กซี่ แน่นอนว่าชื่อของ ลาร่า ครอฟท์ จะต้องแว่บขึ้นมาในหัวของเกมเมอร์หลายๆคนแน่ๆ ด้วยทรวดทรงองเอวสุดเป๊ะและหน้าอกที่ใหญ่ ทำให้คนที่มารับบทลาร่า ครอฟท์อย่าง แอนเจลิน่า โจลี่นั้นถูกใจคอเกมอย่างยิ่ง ความเซ็กซี่ของเธอนั้นยิ่งกว่าตัวแอนิเมชั่นในเกม แถมหนังยังเต็มไปด้วยความระทึกใจ การสาดกระทุนแบบเท่ๆ และความลับ มนต์ขลังของไอเทมโบราณที่สัมผัสได้ หนังยังประสบความสำเร็จจนมีภาคต่อในปี 2003 และกำลังจะมีภาคยกเครื่องใหม่ออกฉายในปี 2017 อีกด้วย
2. WARCRAFT (2016)
เมื่อสันติภาพระหว่างสองเผ่าพันธุ์ไม่อาจคงอยู่ได้ตลอดไป เผ่าพันธุ์ออร์ค ผู้รักสันติและธรรมชาติ ถูก Sargeras จอมปีศาจผู้หวังทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ล่อลวง พวกออร์คได้บุกรุกทำลายหมู่บ้านของมนุษย์ เหตุการณ์บานปลายจนกลายเป็นสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ เพื่อหวังจะทำลายอีกฝั่งให้สิ้น แต่สิ่งที่ทั้งสองต่างมีร่วมกัน คือต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด และหนีพ้นจากการกดขี่ ชะตากรรมของทั้งสองเผ่าพันธุ์จะลงเอยอย่างไร? ต้องติดตาม
หนังสร้างจากเกมวางแผน และเกมออนไลน์ในตำนานที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ถึงแม้หนังจะยังไม่ออกฉาย แต่จากตัวอย่างหนังก็อลังการสุดๆ หนังพยายามชูให้ทั้งฝ่ายออร์คและฝ่ายมนุษย์ต่างน่าเห็นใจ ต่างฝ่ายต่างมีจุดประสงค์และสิ่งที่ต้องปกป้อง CG และบรรดาฉากต่อสู้ก็น่าตื่นตาตื่นใจเอามากๆ หนังมีกำหนดฉายในไทย 9 มิถุนายน 2559 นี้
1. ASSASSIN'S CREED (2016)
คัลลัม ลินช์ (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) บาเทนเดอร์หนุ่มคนหนึ่งที่มีชีวิตปกติ แต่จู่ๆเขาก็ถูกองค์กรลึกลับพาตัวไป เขาตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่เรียกว่า “Animus” และถูกองค์กรพาตัวไปยังเครื่องฟื้นทรงจำจากยีน เขาได้รู้ว่าบรรพบุรุษของเขาคือ อกีลาร์ เป็นสมาชิกองค์กรนักฆ่าในสเปนช่วงศตวรรษที่ 15 เขาได้ย้อนรอยความทรงจำของบรรพบุรุษผ่าน Aminus และเขาก็ได้ทักษะของนักฆ่าติดตัวมาด้วย เขาต้องใช้ความสามารถเหล่านี้ในการโค่นล้มอำนาจชั่วร้ายขององค์กรอัศวินเทมพลาร์ ที่มีอำนาจมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
หนังเรื่องนี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็น “หนังที่สร้างจากเกมที่ดีที่สุด” ตั้งแต่ยังไม่ออกฉาย เพราะได้ Justin Kurzel ผู้กำกับฝีมือดีจากหนังเรื่อง Macbeth มาช่วยรังสรรค์โลกของนักฆ่า ถึงแม้ตัวละครจากหนังจะไม่มีอยู่ในเกม แต่ตัวอย่างหนังที่เพิ่งออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนก็น่าดูมากๆ โทนของหนังโดดเด่นสวยงาม ฉากแอ็คชั่นต่างๆก็ออกแบบมาได้ดี ฉากปีนป่ายสไตล์ฟรีรันนิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมก็ดูน่าระทึกใจ เนื้อเรื่องของหนังก็น่าสนใจไม่แพ้กัน หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่สร้างจากเกมที่ดีที่สุดหรือไม่ รอดูได้ในวันที่ 21 ธันวาคม 2559 นี้
24 สุดยอดหนังในดวงใจที่ต้องหามาดู
24 The best films should see before die
1. Chungking Express (IMDB: 8.1) - หนังจากผู้กำกับหว่อง กา ไว ที่ขึ้นชื่อว่าทำหนังได้เหงาและเท่ที่สุดในโลก นี่เป็นหนังที่ดึงจิตวิญญาณและอารมณ์ของคุณให้ดำดิ่งไปในห้วงแห่งความเหงา ความว้าเหว่ เรื่องนี้จัดว่าเป็นงานชิ้นเอกของหว่องกาไว ใครชอบก็รักเลย ใครเกลียดก็เกลียดเลย อารมณ์เหมือนนั่งจิบกาแฟ นั่งอ่านนิตยสาร Wallpapers เหงาๆชิคๆอยู่ที่คลับในบูดาเปส
2. District 9 (IMDB: 8.0) - หนัง Sci-fi ที่เอเลี่ยนไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรุกรานมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่มนุษย์สามารถรุกรานและรังแกเอเลี่ยนได้ด้วย
เนื้อหาสร้าง สรรค์ ดูสนุก ไม่ได้เน้นบู๊ล้างผลาญอย่างเดียว หนังสื่อถึงอารมณ์และมุมมองของทางฝั่งเอเลี่ยน ทำให้หนังดูใหม่ และไม่ซ้ำใคร แถมการถ่ายทำ เนื้อเรื่องยังทำออกมาได้สนุกมากๆอีกด้วย
3. Life of Pi (IMDB: 8.0) - จินตนาการบรรเจิดเหมือนเราไปล่องอยู่กลางทะเลจริงๆ อารมณ์ประหนึ่งนั่งอ่านนิทานอาหรับราตรีสมัยเด็กๆ ที่มีสิงสาราสัตว์ นั่งเรือล่องไปในท้องมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ผจญภัญบนเกาะร้างอันเวิ้งว้าง ตอนท้ายมีแฝงปมให้คนดูไปคิดกันต่อด้วยว่าตกลงเป็นเรื่องจริงหรือจินตนาการ
4. 300 (ภาคแรก) (IMDB: 7.8) - น่าตื่นตาตื่นใจ ภาพและเทคนิคการถ่ายทำสวยสุดยอด ถือเป็นการฉีกกฏเกณฑ์ของโลกภาพยนตร์ในสมัยนั้นเลย ดูครั้งแรกต้องอ้าปากค้างแน่นอน ต่อมาก็มีหนังในสไตล์เท่ๆแบบนี้ตามออกมาอีกเช่น Sin City แต่สไตล์นี้เรายังถือว่า 300 ยังเจ๋งสุดอยู่ดี
5. Pandorum (IMDB: 6.8) - หลายคนอาจจะชอบหนัง Sci-fi เรื่องอื่น แต่สำหรับเรา เรายกให้นี่้เป็นสุดยอดหนังไซไฟที่ดีที่สุดเรื่องนึงตลอดกาล ให้อารณ์หลอนของหนังสยองขวัญ และให้อารมณ์หลงทางในห้วงอวกาศในเรื่องเดียวกัน ตอนจบคืออะไรที่สุดยอดและหักมุมโดนใจเรา
6. Trainspotting (IMDB: 8.2) - หนังอินดี้ที่โคตรเท่ สำหรับคนที่ค้นหาความหมายและคำตอบของชีวิตว่าแท้จริงแล้ว ชีวิตเราต้องการเดินไปตามกรอบเดิมๆ ใช้ชีวิตมีความสุขตามวิถีทางเดิมๆไปตลอดชีวิตอย่างประโยคที่ในหนังทิ้งท้าย เอาไว้นะหรือ?
Choose life. Choose a job. Choose a starter home. Choose dental insurance, leisure wear and matching luggage. Choose your future. But why would anyone want to do a thing like that?
7. Goemon (IMDB: 6.8) หนัง animation ที่ดีที่สุดสำหรับคนอื่นอาจจะเป็นอนิเมชั่นของ Pixar แต่สำหรับเรามันคือเรื่องนี้ Goemon นอกจากภาพจะสุดยอดแล้ว เนื้อหายังลุ่มลึก คมคายและทรงพลังเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของตะวันออก ภาพสวย เสียงดี แถม Soundtrack ทรงพลังสุดๆ
8. Edge of Tomorrow (IMDB: 8.0) หนังไอเดียสุดบรรเจิดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนคิดพล๊อตเรื่องแบบนี้ได้ ถ้าเด็กๆใครเคยเล่นเกม action ที่เวลาจะผ่านด่านยากๆ ก็กดเซฟและรีเซทมาเล่นใหม่เรื่อยๆจะอินกับเรื่องนี้มาก ทั้งสนุกทั้งคมคายในไอเดีย หนังมีคอนเซ็ปที่ซับซ้อนแต่สื่อออกมาให้ดูง่ายและสนุก เสียอย่างเดียวตอนท้ายดูเว่อร์ไปหน่อย เหมือนเล่นตัวเดียวฆ่าบอสผ่านด่านสุดท้ายซะอย่างงั้น
9. The collector (IMDB: 6.4) ที่สุดของที่สุดของหนังสายโหด ถ้าได้ดูจนจบ จะไม่มีวินาทีไหนเลยที่คุณไม่ตื่นเต้นตกใจไปกับความสุดสะพรึงของหนัง ปล ห้ามดูตอนกินข้าวนะ เตือนไว้เลย
10. My Way (IMDB: 7.7) คนอื่นอาจให้ Saving Private Ryan เป็นหนังสงครามที่ดีที่สุด แต่สำหรับเรา เราให้ My Way นี่คือหนังสงครามที่ใส่บรรยากาศความโหดร้าย มิตรภาพ ความงดงาม และถ่ายทอดเรื่องราวอันลึกซึ้งผ่านฉากหลังของสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่าง ยอดเยี่ยม
11. Inception (IMDB 8.8) หนังที่อาจดูครั้งแรกและไม่ตั้งใจดูให้ดี อาจจะงง แต่ถ้ามีสมาธิและให้เวลากับมันจะรู้ว่านี่คือหนังที่พล๊อตเรื่องสุดยอดที่ สุดตลอดกาล
12. Infernal Affair (ภาคแรก IMDB: 8.1) ถ้าพูดถึงหนังจีน คงไม่มีหนังแนวไหนที่ดีไปกว่าหนังแนวสืบสวนอีกแล้ว และนี่สุดยอดของหนังต้นตำรับสืบสวนที่หักเหลี่ยมเฉือนคมกันสุดๆชนิดที่แม้ Hallywood จะซื้อบทมา re-make ก็ไม่คมคายและเท่เท่าต้นฉบับ บรรยากาศความเนี๊ยบ ความเท่ รังสีของการหักเหลี่ยมยังไงก็สู้ภาคแรกที่ได้พี่หลิวกะเฮียเหลียงเล่นไม่ได้ เรากล้าพูดว่านี่คือหนึ่งในหนังสืบสวนที่ดีที่สุดในโลก
13. Sunshine (IMDB: 7.3) หนังไซไฟของ Danny Boyle เรื่องที่สามที่อยู่ในลิสต์ของเรา ถามว่าทำไมเราถึงชอบสไตล์หนังแนวของ Danny Boyle นั้นก็เพราะความแนว ความใหม่ ความเท่ในทุกอณูของตัวหนังนั้นเอง
14. Trance (IMDB: 7.0) หนัง Danny Boyle อีกเรื่องที่เราชอบ ภาพและโทนของหนังมันเท่ เหมือนดูมิวสิกวีดีโอเก๋ๆ คูลๆ ภาพและแสงสวยยังกับอยู่ในความฝัน
15. เป็นชู้กับผี: หนังไทยเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่เรายอมรับในความลึก การหักมุม การหลอกคนดุที่มีชั้นเชิงและเจ๋งสุดๆ หนังให้บรรยากาศสุดสะพรึงไปทั้งเรื่องชนิดที่ว่าหวาดระแวงและไว้ใจใครไม่ได้ เลยแม้แต่วินาทีเดียว ฉากจบทำเราขนลุกและร้องอุทานออกมาว่า "เชี่ย"
16. Inglourious Basterds (IMDB: 8.3) หนังนาซีในสไตล์ของ Quentin Tarantino ที่ให้บรรยากาศชวนขนลุกในความน่าเกรงขามของนาซีได้ดีมากๆ เสน่ห์ของเรื่องนี้คือบทพูดที่พิถีพิถัน ดูใส่ใจในทุกรายละเอียด และความห่ามในสไตล์เควนติน
17. Charlie Countryman (IMDB: 6.4) หนังรักในสไตล์เท่ๆเหมือนนั่งดูงานกำกับภาพเจ๋งๆ มิวสิควีดีโอดีๆยาวๆสักเรื่อง
18. Gravity (IMDB: 7.9) หนังอวกาศที่ใหม่ทั้งไอเดียวและเทคนิคการนำเสนอ หนังสุดยอดเข้าขั้นมาสเตอร์พีช
19. Crank (ภาคแรก IMDB: 7.0) หนังที่เถื่อน ดิบ และเท่และใหม่ (ในยุคนั้น) ฉากเปิดเรื่องสุดยอด การเดินเรื่องสุดมัน ไม่มีคำว่าน่าเบื่อแม้แต่วินาทีเดียว
20. Black Hawk Down (IMDB: 7.7) ต้นแบบหนังสงครามที่สุดยอด และสนุกที่สุดเรื่องนึง ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่รอดออกมาก็พอ
21. Real Steel (IMDB: 7.1) หนังหุ่นยนตร์ความฝันอันสูงสุดของเด็กผู้ชาย ที่ดูยังไงก็สนุกและครองใจหนุ่มๆทั่วโลก
22. A.I. (IMDB: 7.1) หนังไซไฟไอเดียสุดล้ำที่้ต้องดูเพราะสุดยอดทั้งเนื้อหาและคอมพิวเตอร์กราฟฟิค
23. The Curious Case of Benjamin Button (IMDB: 7.8) หนังโรแมนติกดราม่าสุดซึ้ง ที่ถ้าไม่หามาดูแล้วจะต้องเสียใจ
24. I Give it a year (IMDB: 5.8) Begin Again อาจเป็นหนังที่ดี แต่สำหรับทุกคน แต่เราให้เรื่องนี้ดีกว่า ในแง่ของความใหม่ของเนื้อเรื่องที่ความรักไม่จำเป็นซื่อสัตย์กับคนรักและจบ ลงแบบสมหวัง แต่ก็ยังมีความสุขได้ เอ๊ะยังไง ใครเคยมีความหลังกับการเลือกคนรักจะชอบครับ
1. Chungking Express (IMDB: 8.1) - หนังจากผู้กำกับหว่อง กา ไว ที่ขึ้นชื่อว่าทำหนังได้เหงาและเท่ที่สุดในโลก นี่เป็นหนังที่ดึงจิตวิญญาณและอารมณ์ของคุณให้ดำดิ่งไปในห้วงแห่งความเหงา ความว้าเหว่ เรื่องนี้จัดว่าเป็นงานชิ้นเอกของหว่องกาไว ใครชอบก็รักเลย ใครเกลียดก็เกลียดเลย อารมณ์เหมือนนั่งจิบกาแฟ นั่งอ่านนิตยสาร Wallpapers เหงาๆชิคๆอยู่ที่คลับในบูดาเปส
2. District 9 (IMDB: 8.0) - หนัง Sci-fi ที่เอเลี่ยนไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรุกรานมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่มนุษย์สามารถรุกรานและรังแกเอเลี่ยนได้ด้วย
เนื้อหาสร้าง สรรค์ ดูสนุก ไม่ได้เน้นบู๊ล้างผลาญอย่างเดียว หนังสื่อถึงอารมณ์และมุมมองของทางฝั่งเอเลี่ยน ทำให้หนังดูใหม่ และไม่ซ้ำใคร แถมการถ่ายทำ เนื้อเรื่องยังทำออกมาได้สนุกมากๆอีกด้วย
3. Life of Pi (IMDB: 8.0) - จินตนาการบรรเจิดเหมือนเราไปล่องอยู่กลางทะเลจริงๆ อารมณ์ประหนึ่งนั่งอ่านนิทานอาหรับราตรีสมัยเด็กๆ ที่มีสิงสาราสัตว์ นั่งเรือล่องไปในท้องมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ผจญภัญบนเกาะร้างอันเวิ้งว้าง ตอนท้ายมีแฝงปมให้คนดูไปคิดกันต่อด้วยว่าตกลงเป็นเรื่องจริงหรือจินตนาการ
4. 300 (ภาคแรก) (IMDB: 7.8) - น่าตื่นตาตื่นใจ ภาพและเทคนิคการถ่ายทำสวยสุดยอด ถือเป็นการฉีกกฏเกณฑ์ของโลกภาพยนตร์ในสมัยนั้นเลย ดูครั้งแรกต้องอ้าปากค้างแน่นอน ต่อมาก็มีหนังในสไตล์เท่ๆแบบนี้ตามออกมาอีกเช่น Sin City แต่สไตล์นี้เรายังถือว่า 300 ยังเจ๋งสุดอยู่ดี
5. Pandorum (IMDB: 6.8) - หลายคนอาจจะชอบหนัง Sci-fi เรื่องอื่น แต่สำหรับเรา เรายกให้นี่้เป็นสุดยอดหนังไซไฟที่ดีที่สุดเรื่องนึงตลอดกาล ให้อารณ์หลอนของหนังสยองขวัญ และให้อารมณ์หลงทางในห้วงอวกาศในเรื่องเดียวกัน ตอนจบคืออะไรที่สุดยอดและหักมุมโดนใจเรา
6. Trainspotting (IMDB: 8.2) - หนังอินดี้ที่โคตรเท่ สำหรับคนที่ค้นหาความหมายและคำตอบของชีวิตว่าแท้จริงแล้ว ชีวิตเราต้องการเดินไปตามกรอบเดิมๆ ใช้ชีวิตมีความสุขตามวิถีทางเดิมๆไปตลอดชีวิตอย่างประโยคที่ในหนังทิ้งท้าย เอาไว้นะหรือ?
Choose life. Choose a job. Choose a starter home. Choose dental insurance, leisure wear and matching luggage. Choose your future. But why would anyone want to do a thing like that?
7. Goemon (IMDB: 6.8) หนัง animation ที่ดีที่สุดสำหรับคนอื่นอาจจะเป็นอนิเมชั่นของ Pixar แต่สำหรับเรามันคือเรื่องนี้ Goemon นอกจากภาพจะสุดยอดแล้ว เนื้อหายังลุ่มลึก คมคายและทรงพลังเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของตะวันออก ภาพสวย เสียงดี แถม Soundtrack ทรงพลังสุดๆ
8. Edge of Tomorrow (IMDB: 8.0) หนังไอเดียสุดบรรเจิดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนคิดพล๊อตเรื่องแบบนี้ได้ ถ้าเด็กๆใครเคยเล่นเกม action ที่เวลาจะผ่านด่านยากๆ ก็กดเซฟและรีเซทมาเล่นใหม่เรื่อยๆจะอินกับเรื่องนี้มาก ทั้งสนุกทั้งคมคายในไอเดีย หนังมีคอนเซ็ปที่ซับซ้อนแต่สื่อออกมาให้ดูง่ายและสนุก เสียอย่างเดียวตอนท้ายดูเว่อร์ไปหน่อย เหมือนเล่นตัวเดียวฆ่าบอสผ่านด่านสุดท้ายซะอย่างงั้น
9. The collector (IMDB: 6.4) ที่สุดของที่สุดของหนังสายโหด ถ้าได้ดูจนจบ จะไม่มีวินาทีไหนเลยที่คุณไม่ตื่นเต้นตกใจไปกับความสุดสะพรึงของหนัง ปล ห้ามดูตอนกินข้าวนะ เตือนไว้เลย
10. My Way (IMDB: 7.7) คนอื่นอาจให้ Saving Private Ryan เป็นหนังสงครามที่ดีที่สุด แต่สำหรับเรา เราให้ My Way นี่คือหนังสงครามที่ใส่บรรยากาศความโหดร้าย มิตรภาพ ความงดงาม และถ่ายทอดเรื่องราวอันลึกซึ้งผ่านฉากหลังของสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่าง ยอดเยี่ยม
11. Inception (IMDB 8.8) หนังที่อาจดูครั้งแรกและไม่ตั้งใจดูให้ดี อาจจะงง แต่ถ้ามีสมาธิและให้เวลากับมันจะรู้ว่านี่คือหนังที่พล๊อตเรื่องสุดยอดที่ สุดตลอดกาล
12. Infernal Affair (ภาคแรก IMDB: 8.1) ถ้าพูดถึงหนังจีน คงไม่มีหนังแนวไหนที่ดีไปกว่าหนังแนวสืบสวนอีกแล้ว และนี่สุดยอดของหนังต้นตำรับสืบสวนที่หักเหลี่ยมเฉือนคมกันสุดๆชนิดที่แม้ Hallywood จะซื้อบทมา re-make ก็ไม่คมคายและเท่เท่าต้นฉบับ บรรยากาศความเนี๊ยบ ความเท่ รังสีของการหักเหลี่ยมยังไงก็สู้ภาคแรกที่ได้พี่หลิวกะเฮียเหลียงเล่นไม่ได้ เรากล้าพูดว่านี่คือหนึ่งในหนังสืบสวนที่ดีที่สุดในโลก
13. Sunshine (IMDB: 7.3) หนังไซไฟของ Danny Boyle เรื่องที่สามที่อยู่ในลิสต์ของเรา ถามว่าทำไมเราถึงชอบสไตล์หนังแนวของ Danny Boyle นั้นก็เพราะความแนว ความใหม่ ความเท่ในทุกอณูของตัวหนังนั้นเอง
14. Trance (IMDB: 7.0) หนัง Danny Boyle อีกเรื่องที่เราชอบ ภาพและโทนของหนังมันเท่ เหมือนดูมิวสิกวีดีโอเก๋ๆ คูลๆ ภาพและแสงสวยยังกับอยู่ในความฝัน
15. เป็นชู้กับผี: หนังไทยเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่เรายอมรับในความลึก การหักมุม การหลอกคนดุที่มีชั้นเชิงและเจ๋งสุดๆ หนังให้บรรยากาศสุดสะพรึงไปทั้งเรื่องชนิดที่ว่าหวาดระแวงและไว้ใจใครไม่ได้ เลยแม้แต่วินาทีเดียว ฉากจบทำเราขนลุกและร้องอุทานออกมาว่า "เชี่ย"
16. Inglourious Basterds (IMDB: 8.3) หนังนาซีในสไตล์ของ Quentin Tarantino ที่ให้บรรยากาศชวนขนลุกในความน่าเกรงขามของนาซีได้ดีมากๆ เสน่ห์ของเรื่องนี้คือบทพูดที่พิถีพิถัน ดูใส่ใจในทุกรายละเอียด และความห่ามในสไตล์เควนติน
17. Charlie Countryman (IMDB: 6.4) หนังรักในสไตล์เท่ๆเหมือนนั่งดูงานกำกับภาพเจ๋งๆ มิวสิควีดีโอดีๆยาวๆสักเรื่อง
18. Gravity (IMDB: 7.9) หนังอวกาศที่ใหม่ทั้งไอเดียวและเทคนิคการนำเสนอ หนังสุดยอดเข้าขั้นมาสเตอร์พีช
19. Crank (ภาคแรก IMDB: 7.0) หนังที่เถื่อน ดิบ และเท่และใหม่ (ในยุคนั้น) ฉากเปิดเรื่องสุดยอด การเดินเรื่องสุดมัน ไม่มีคำว่าน่าเบื่อแม้แต่วินาทีเดียว
20. Black Hawk Down (IMDB: 7.7) ต้นแบบหนังสงครามที่สุดยอด และสนุกที่สุดเรื่องนึง ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่รอดออกมาก็พอ
21. Real Steel (IMDB: 7.1) หนังหุ่นยนตร์ความฝันอันสูงสุดของเด็กผู้ชาย ที่ดูยังไงก็สนุกและครองใจหนุ่มๆทั่วโลก
22. A.I. (IMDB: 7.1) หนังไซไฟไอเดียสุดล้ำที่้ต้องดูเพราะสุดยอดทั้งเนื้อหาและคอมพิวเตอร์กราฟฟิค
23. The Curious Case of Benjamin Button (IMDB: 7.8) หนังโรแมนติกดราม่าสุดซึ้ง ที่ถ้าไม่หามาดูแล้วจะต้องเสียใจ
24. I Give it a year (IMDB: 5.8) Begin Again อาจเป็นหนังที่ดี แต่สำหรับทุกคน แต่เราให้เรื่องนี้ดีกว่า ในแง่ของความใหม่ของเนื้อเรื่องที่ความรักไม่จำเป็นซื่อสัตย์กับคนรักและจบ ลงแบบสมหวัง แต่ก็ยังมีความสุขได้ เอ๊ะยังไง ใครเคยมีความหลังกับการเลือกคนรักจะชอบครับ
COMING SOON...DC
Complete DC Comics Superhero Movie Release Calendar
After Wonder Woman and the Justice League movie we may get four Batman themed films, and lots of other DC superhero movies!
Updated with new information on The Batman solo movie, the Batgirlmovie, the Nightwing movie, and more!
Now that Batman v Superman: Dawn of Justice and Suicide Squad have both come and gone, the DC Extended Universe is in full swing. The Wonder Woman movie is next up in June, and it's all leading up to the Justice League movie in November of 2017.
So, it's time to take a look at all of the DC superhero movies that will be released over the next few years. And trust us, there are a ton of them on the way, and we expect more details will be announced as we go forward.
We have all the release dates for every one of 'em right here, as well as official details, the most interesting rumors, and suggestions for further reading where appropriate.
Click the blue links to go to articles containing everything you need to know about the movies!
Here's how this works, because the schedule is getting a little weird. We're starting with the dates that we know Warner Bros. has reserved specifically for DC superhero movies. You'll find that in some cases, there isn't officially a project attached to that date yet. Then we'll get into the stuff that we know for 100% certain is in development, but that don't have release dates. Then we'll get into some of the long shots at the bottom.
June 2nd, 2017 - Wonder Woman
The fact that it has taken this long to get us to a Wonder Woman solo movie is almost beyond belief. We don't have time to get into the rampant short-sightedness that is keeping women from taking marquee roles in superhero movies at the moment (and that's bound to change one of these days, especially given how their fortunes have changed on TV), but just know that Gal Gadot did some serious Amazonian ass-kicking in Batman v. Superman: Dawn of Justice, and then we get her solo movie on June 2nd, 2017, and then she's back again in Justice League (more on that down below).
Amazon has all your Wonder Woman needs.
Patty Jenkins (Monster) is directing, from a screenplay by Allan Heinberg and Geoff Johns. Chris Pine will appear as Wonder Woman's love interest, Steve Trevor.
November 17th, 2017 - Justice League
Zack Snyder will direct Justice League, and BvS co-writer Chris Terrio is back. The villain of this one is Steppenwolf, one of Darkseid's relatives, and it focuses on Batman building a team to confront him.
Here's the official synopsis:
Fueled by his restored faith in humanity and inspired by Superman’s selfless act, Bruce Wayne enlists the help of his newfound ally, Diana Prince, to face an even greater enemy. Together, Batman and Wonder Woman work quickly to find and recruit a team of metahumans to stand against this newly awakened threat. But despite the formation of this unprecedented league of heroes—Batman, Wonder Woman, Aquaman, Cyborg and The Flash—it may already be too late to save the planet from an assault of catastrophic proportions.
Buy Justice League Stuff on Amazon
This one will also introduce Aquaman's Queen Mera (played by Amber Heard), which would make sense considering that the Aquaman movie will follow the next fall.
March 16, 2018 - The Flash
At this point, it's a safe bet that this isn't going to make that March release date, but technically the studio hasn't moved this yet. After losing two directors/writers in Seth Grahame-Smith (Pride and Prejudice and Zombies) wrote a screenplay, and Rick Famuyiwa (Dope) this one needs some work. The latest is that it's being completely rewritten by Joby Harold. Meanwhile, no replacement director has been found.
Watch The Flash on Amazon
Ezra Miller (The Perks of Being a Wallflower, Madame Bovary) is playing Barry Allen, but probably a very different Barry Allen than the one we currently love on TV. Billy Crudup will play Dr. Henry Allen, with Kiersey Clemons as Iris West. Ray Fisher (Cyborg in Batman v Superman and Justice League) will also appear.
Now, about that release date change...there's now an empty space in July that Warner had previously reserved for a different DC superhero movie...
July 27th, 2018 - Unknown
This was formerly the date occupied by the Aquaman movie, but that was bumped to October, and then December. At one point we thought this could end up being the debut of Ben Affleck's Batman solo movie but that film has just hit its own production problems, with Mr. Affleck bowing out as director, Matt Reeves coming on board, and a complete rewrite of the script looming.
Maybe The Flash, which is likely about to hit some production delays will just get a few months of breathing room? Or will Warner Bros. just use this for something else entirely that has nothing to do with superheroes? That seems like the most likely scenario, and I doubt we'll see The Batmanbefore 2019. We'll probably find out very soon.
December 21, 2018 - Aquaman
Jason Momoa is playing Aquaman. There's no doubt that they've been taking Aquaman very seriously. Amber Heard will also appear as Queen Mera. There are reports that Black Manta is the film's villain.
James Wan (Furious 7) will direct from a script by Kurt Johnstad (300: Rise of an Empire).
April 5th, 2019 - Shazam
Shazam has both a writer (Henry Gayden, of Earth to Echo fame) and a star (Dwayne "The Rock" Johnson as the villainous Black Adam) announced. If we end up getting to see Henry Cavill's Superman fight Dwayne Johnson's Black Adam some day, it's tough to imagine anyone would complain. Lights Out director David F. Sandberg is in the mix to direct this one, but hasn't been confirmed yet.
But like other projects on this calendar, this doesn't seem to be on the fast track, and with a recently announced Black Adam solo movie with Dwayne Johnson now in development (more on that in a bit), it's not clear what that means for the immediate future of Shazam. The fact that Dwayne Johnson is just about the busiest man in Hollywood doesn't help, either.
June 14th, 2019 - Unknown
This was long ago announced as the Justice League 2 release date, but this is apparently about to change. Director Zack Snyder would like to take on another project, and there are recent indications that Warner Bros is prioritizing the Batman solo movie over this, and that this could end up being that film's date instead.
It's also possible that this could end up being David Ayer's Gotham City Sirens movie as part of a four movie 80th anniversary Batman celebration, and we have more on that down below.
November 1st, 2019 - Untitled DC Film
No information has yet been given as to the story or what characters will be featured in the film. Man of Steel 2 is back in active development at the studio. Could this be it? It's yet another potential landing date for Ben Affleck's Batman solo movie, too. In fact, given that movie's ongoing troubles, this is probably its most likely arrival date.
November is a safer month for high profile releases than October, and this could be where the now-rescheduled Justice League 2 ends up, although we suspect it will be a bit longer than that.
The truth is that we just don't know what DC has planned for Nov. 2019, so we'll just have to wait and see.
April 3rd, 2020 - Cyborg
And this one is the biggest surprise of them all. Ray Fisher made his first (very brief) appearance as Vic Stone/Cyborg in Batman v. Superman: Dawn of Justice, and will clearly have a crucial role to play in both Justice League films if they're grooming him for a solo film. He's going to feature in The Flash solo movie, too.
No other details are presently available, and there are also rumors that this one might be reworked into a movie that would introduce the Teen Titansto the big screen.
July 24th, 2020 - Green Lantern Corps
Fairly or unfairly, Green Lantern has the most working against him. The 2011 film failed to kickstart the DC Universe as planned, and received a lukewarm (at best) critical and box-office reception. There are, of course, ways around this.
One way is to simply not make Hal Jordan the central Green Lantern of the movie. It was revealed at SDCC 2015 that the Green Lantern movie is now called Green Lantern Corps, and this one may focus on as many as three Green Lanterns, likely with John Stewart as the main Green Lantern of Sector 2814. David Goyer and Justin Rhodes are writing the script, but there's no director in place yet. There's a slim chance that Goyer could end up directing, though.
We've heard bits and pieces indicating that Green Lantern won't even show up until the end of Justice League, or possibly even Justice League 2. By the time 2020 rolls around, a decade will have passed, and by then the character won't be considered so radioactive by studio execs.
Now, let's get into the projects that are in the works, but don't have release dates yet. We've grouped these roughly in the order we expect to see them based on how far along they are.
Gotham City Sirens
Harley Quinn isn't just for the Suicide Squad. Warner Bros. has tapped David Ayer to direct Gotham City Sirens, which will team Harley Quinn up with other female DC villain, most likely including Poison Ivy and Catwoman. It's not totally clear if this is replacing a Harley Quinn solo movie, which we have a few details on here.
This one is on the fast-track, so it could take over that June 14th, 2019 release date vacated by Justice League 2. There are really thin rumors that Warner Bros. wants to release four Batman themed movies in 2019: Gotham City Sirens, Nightwing, Batgirl, and that Batman solo movie they keep promising us. I wouldn't put too much stock in that just yet.
But let's talk about two of those other Bat-themed movies for a moment...
Nightwing
The Lego Batman movie director Chris McKay has been tapped to direct a Nightwing movie. Bill Dubuque (The Accountant) is working on a script. No other details are currently available, and this one doesn't have a release date yet, although there are rumors of a 2019 window. We wrote more about it here.
Batgirl
Joss Whedon will write, direct, and produce a Batgirl movie, one that is reportedly based on Gail Simone's recent New 52 take on the character. We have some more details here, but there's no casting or release date to report yet. This is another one where there are rumors of 2019 in the wind, but don't put any stock in that yet.
Suicide Squad 2
While the critical response to the first film wasn't so hot, the box office was blazing, so Suicide Squad 2 is definitely happening. David Ayer going to be too busy with Gotham City Sirens until further notice, though, and possible directors include Mel Gibson, Danny Espinosa, and Jonathan Levine. Adam Cozad, who wrote The Legend of Tarzan, is working on a script.
Justice League 2
Don't be fooled by the fact that this lost its 2019 release date, Warner Bros. is still planning a second installment, since the first one is bound to make all kinds of bank. Things will stay quiet on this for a few more months.
Black Adam
Shazam doesn't have a director or a star to play its title character yet, but it sure does have a villain. And that villain, who will be played by Dwayne Johnson, is certainly strong enough to sustain his own movie. There's no release date set for the Black Adam movie, and this is the kind of thing that could work as a nifty prequel to set up the mystical world of Shazam if they choose to go that route. We're currently on the lookout for more info.
Booster Gold (and maybe Blue Beetle)
Flash and Arrow executive producer Greg Berlanti is going to executive produce and possibly direct a Booster Gold movie. Zack Stentz (Thor, X-Men: First Class, a recent episode of CW's The Flash TV series) will write the script.
Early reports described this as a "superhero buddy cop movie" that would involve Blue Beetle. We'll get you more updates on this as they become available.
And now for the long shots...projects mentioned, rumored, or that haven't had any movement in a while.
Deadshot
Warner Bros. knows they have one of the biggest stars in the world already in costume, so they're reportedly considering a Deadshot solo movie, as well.
Lobo
Back on the schedule after years of being dormant, the Lobo movie may attempt to be the DCEU equivalent of Deadpool. Jason Fuchs must have impressed Warner Bros. with his work on Wonder Woman, because he's on board to write the script for this one.
We'll update this with more information as we get it, but it should be a fun ride.
Sandman
Sandman isn't a superhero movie, so the fact that he wasn't involved in an announcement that primarily focused on high-profile franchises (along with the superhero slate, Warner Bros. focused on Lego movies and Harry Potter spinoffs). It isn't a DC Universe movie that will have any bearing on future Justice League films. But it is one of the most successful, enduring comics of all time.
The latest news on this isn't encouraging, though. It appears to be a dead project.
Dark Universe
Dark Universe might be more familiar to comic book fans under its comic name, Justice League Dark. This one will feature the supernatural characters from the DC Universe. Characters like Swamp Thing, Demon, Deadman, Zatanna, and possibly even John Constantine.
Try Amazon Prime 30-Day Free Trial
Guillermo del Toro was attached to this one for quite some time, but had to leave the project. Doug Liman (Edge of Tomorrow) will now direct.
Legion of Super-Heroes
This one came as a big surprise when the rumor surfaced a couple of years ago. The word is that Warner Bros., perhaps inspired by the runaway success of Guardians of the Galaxy, is looking to put together their own superheroic space opera. Nobody has been hired. Warner Bros. have simply placed this one on the table as a DC property potentially worth developing, and are inviting writers to make pitches.
Metal Men
Perhaps the longest of the long-shots, the Metal Men movie is something that's been in discussion as far back as 2007. It's the most bizarre concept of the bunch, involving a mad scientist and his group of sentient elemental robots, but like Suicide Squad and Legion of Super-Heroes, perhaps that uniqueness is what makes this one so appealing. Warner Bros. can't be seen to copy the Marvel model too closely, so veering away from solo outings for traditional heroes and into this kind of territory might be the very best thing they can do for the brand.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)